16 กันยายน 2551

เบเกอรี่

ไทย : eng
ธุรกิจเบเกอรี่ : อา เบียงโต
เวลาว่างของแต่ละคนถูกใช้ให้หมดไปกับกิจกรรมต่างๆ ตามที่ตนต้องการ บางคนเลือกที่จะทําอะไรก็ได้เพื่อให้เวลาหมดไป บางคนก็ใช้เวลาว่างที่มีอยู่อย่างสร้างสรรค์โดยเลือกทําในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อตนเอง
เวลาว่างช่วงหนึ่งของเจ้าของกิจการธุรกิจเบเกอรี่ : อา เบียงโต เขาเข้าอบรมเกี่ยวกับการทําขนม การอบรมครั้งนั้นทําให้เขามีความรู้ไปใช้ในการประกอบอาชีพ


ความเป็นมา
ช่วงนึงเธอนึกถึงความรู้เกี่ยวกับการทําขนมที่เคยอบรมมา จึงทดลองทําขนมที่พอจะทําได้
อย่างขนมปุยฝ้ายไปฝากแม่ค้าที่ตลาดรังสิตขาย การเริ่มต้นของเธอก็ไม่ต่างไปจากผู้ประกอบการใหม่รายอื่นๆ เธอไม่ได้ประสบความสําเร็จในทันที ขนมปุยฝ้ายของเธอขายไม่ได้ แต่เธอ
ก็ยังมุ่งมั่นและไม่ท้อ เธอบอกตัวเองว่าวันนี้ขายไม่ได้ พรุ่งนี้ก็อาจขายได้ ผ่านไปสักพักขนมของเธอก็เริ่มขายได้และมีลูกค้าซื้อประจํา จุดนี้เองที่ทําให้เธอรู้สึกว่า “น่าจะทําเป็นธุรกิจได้” แต่ก็ยังไม่คิดไกลถึงการเปิดร้านของตนเอง
ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ปี 2543 ปกติครอบครัวของเธอต้องจัดซื้อของขวัญแจกให้กับญาติๆ แต่ปีนี้เธอเลือกที่จะทําขนมเค้กเป็นของขวัญปีใหม่ นี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นเล็กๆ ที่เธอได้ทําการตลาดให้กับขนมของเธอ หลังจากญาติๆ ได้รับขนมเค้ก ต่างก็ให้การสนับสนุนเธอด้วยการสั่งขนมเค้กไปแจกให้กับคนอื่นๆ บ้าง
เธอจึงเริ่มให้ความสนใจกับการทําขนมอบประเภทเบเกอรี่อย่างจริงจัง เธอปรับพื้นที่หน้าบ้าน ให้เป็นที่ตั้งของร้าน “เค้กอร่อย” โดยเริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่เดือนตุลาคม 2545 เป็นต้นมา เธอตั้งชื่อร้านว่า “เค้กอร่อย” เพราะอยากสื่อให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายและคนที่ผ่านไปมาทราบว่า ที่นี่เค้กอร่อย แต่ต่อมาเธอก็มีความคิดอยากให้ร้านมีชื่อเก๋ๆ ฟังเป็นสากลมากขึ้น จึงเปลี่ยนชื่อร้านจาก “เค้กอร่อย” เป็น “อา เบียงโต” (A bientot) ที่มีความหมายว่า แล้วกลับมาพบกันใหม่



กรรมวิธี
การผลิตขนมในแต่ละวัน เธอจะวางแผนการทํางานโดยจดรายการออกมาเลยว่าจะทําอะไรบ้าง เช่น วันจันทร์ จะทําขนมปังไส้ต่างๆ ถ้าเป็นไส้แห้ง อย่างลูกเกด หมูหยอง ก็สามารถนําไส้ใส่ในขนมปังได้เลย แต่ถ้าเป็นไส้ทูน่าหรือหมูแดง จะต้องเตรียมทําไส้ก่อน โดยแบ่งหน้าที่ให้พนักงาน 1 คน เตรียมไส้อีก 1 คน เตรียมแป้ง เตรียมถาด ช่วงที่พักขนมปัง 2-3 ชั่วโมง เพื่อให้ขนมปังขึ้นก่อนนําเข้าเตาอบ ก็เตรียมทําขนมประเภทที่ตีได้เร็ว อบได้เร็ว ทําเสร็จแล้วอบได้เลย เช่น คุกกี้ เค้ก หรือปุยฝ้าย ฯลฯ พออบเสร็จก็นําขนมปังเข้าอบต่อ เพื่อให้สามารถใช้เตาอบทํางานได้อย่างต่อเนื่อง


การเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์
การทําธุรกิจเบเกอรี่โดยมีช่องทางจัดจําหน่ายหลักคือการขายส่ง ผู้ประกอบการไม่สามารถหลีกเลี่ยงการแข่งขันได้ แต่การที่จะดําเนินธุรกิจอยู่ได้ท่ามกลางการแข่งขันนั้น ผู้ประกอบการต้องรู้จักการทําให้สินค้าของตนแตกต่างจากคู่แข่ง ซึ่งเจ้าของกิจการก็ตระหนักดีถึงความจริงในเรื่องนี้ จึงพัฒนารูปแบบขนมให้มีความแปลกใหม่ตลอดเวลา เพื่อดึงดูดความสนใจและไม่ให้ผู้บริโภครู้สึกจําเจกับขนมหน้าตาเดิมๆ แต่ละวันเธอจะเป็นคนคิดว่าจะต้องทําขนมอะไรบ้าง ส่วนรูปแบบของขนมก็จะปรึกษากับทีมผลิต หรือหากไปพบเห็นขนมที่ดูน่ารับประทานจากที่อื่น เธอก็จะนําข้อมูลมาปรึกษาและช่วยกันพัฒนาปรับปรุงขนมของเธอให้ดูน่ารับประทานยิ่งขึ้น




รางวัลแห่งความสำเร็จ
การเข้าไปติดต่อกับร้านค้าในหน่วยงานต่างๆ เพื่อหาช่องทางในการขายขนม เธอบอกว่า ร้านค้าเหล่านั้นจะพิจารณารับขนมของเราไว้ขายหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการพูดคุยของเราด้วย โดยเราอาจเริ่มจากการเข้าไปเป็นลูกค้าและซื้อขนมของเขาก่อน จากนั้นจึงลองพูดคุยซักถามว่าขนมที่ร้านของเขาทําเองหรือรับมาขาย ถ้ารับมาขายก็แนะนําว่าที่บ้านเราก็ทํา วันต่อมาก็ลองส่งขนมไปให้เขาชิม ถ้าขนมของเราอร่อย รสชาติถูกปาก หน้าตาขนมสวยงาม โอกาสที่เขาจะลองสั่งขนมของเราไปขายก็มีสูง แต่ก็มีบางร้านที่เธอต้องส่งขนมไปให้ชิมนับสิบครั้ง กว่าที่เขาจะยอมสั่งขนมไปขาย กรณีนี้แม้จะมองว่าเป็นการสั่งด้วยความเกรงใจ แต่เธอก็ถือว่าทําสําเร็จแล้ว
การขายขนมผ่านร้านค้าเหล่านี้ เธอบอกว่าต้องมีความอะลุ้มอล่วยซึ่งกันและกัน ขนมที่เธอส่งไปขายไม่ใช่การขายขาด ร้านค้าสามารถส่งคืนได้หากขายไม่หมด ซึ่งร้านค้าส่วนใหญ่จะรู้สึกพอใจเพราะไม่ต้องรับภาระในส่วนนี้
ปัจจุบันขนมนานาชนิดจาก “อา เบียงโต” ได้รับความสนใจและการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า ทั้งในบริเวณที่ตั้งร้าน และที่ห่างไกล เนื่องจากลูกค้าได้นําขนมของเธอไปเป็นของฝาก และผู้ที่ได้รับขนมนั้นติดใจในรสชาติ จึงทําให้ระยะทางที่ห่างไกลไม่เป็นอุปสรรคในการจําหน่ายเบเกอรี่


เทคนิคการสร้างแบรนด์สู่ตลาดโลก
จาก “อา เบียงโต” ทำให้มีข้อคิดที่ผู้ประกอบการและผู้สนใจสามารถนําไปประยุกต์ใช้กับการดําเนินธุรกิจได้ ดังนี้
1. การทําธุรกิจเบเกอรี่ ผู้ประกอบการต้องหาวิธีทําให้สินค้าของตนเองแตกต่างจากผู้ประกอบการรายอื่น หากจะทําเบเกอรี่เหมือนคนอื่นก็ควรทําให้อร่อยกว่า ดีกว่า เ พราะเบเกอรี่เป็น
ขนมที่มีเทศกาลในการขายที่หลากหลาย หากทําดีๆ ก็มีโอกาสขายได้ตลอดเวลา
2. การทําธุรกิจของตนเอง ควรเลือกทําในสิ่งที่ตนมีความถนัด มีความชอบ หรือมีใจรัก
3. เมื่อเผชิญกับปัญหาในการดําเนินธุรกิจ ผู้ประกอบการควรเปิดใจกว้างและพร้อมที่
จะให้ผู้ที่มีความรู้หรือประสบการณ์มากกว่าช่วยแนะนําแนวทางในการแก้ไขปัญหา เพราะการคิดแก้ไขปัญหาด้วยตนเองเพียงลําพัง อาจทําให้ปัญหานั้นลุกลามหนักมากกว่าเดิมก็ได้
4. การทํางานทุกอย่างควรมีการวางแผน เพื่อให้สามารถใช้ทรัพยากรในการผลิตได้อย่าง
เต็มประสิทธิภาพ ทั้งยังเป็นการช่วยลดต้นทุนและการสูญเสียในกระบวนการผลิตด้วย


ติดต่อ
คุณวิลาวัณย์ พึ่งสุข : ร้านอา เบียงโต 38 หมู่ 2 ต.บางพูน อ.เมือง จ.ปทุมธานี 12000
โทรศัพท์ 081-363-3904

ไม่มีความคิดเห็น: